เรื่อง การพัฒนาหนังสืออ่านเพิ่มเติม
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชุด
“งานประดิษฐ์ว่าวบ้านสาคร” สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนสาครพิทยาคาร
ผู้วิจัย เสรี บิสนุม
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของ หนังสืออ่านเพิ่มเติมชุด “งานประดิษฐ์ว่าวบ้านสาคร” สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนสาครพิทยาคาร ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2) เพื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ระหว่างก่อนใช้และหลังใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด “งานประดิษฐ์ว่าวบ้านสาคร” สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาครพิทยาคาร 3) เพื่อศึกษาความสามารถในการประดิษฐ์ว่าว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนสาครพิทยาคาร 4)
เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม
ชุด
“งานประดิษฐ์ว่าวบ้านสาคร” สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนสาครพิทยาคาร
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนสาครพิทยาคาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต
16 ภาคเรียนที่ 1
ปีการศึกษา 2555
จำนวนนักเรียน 25 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด “งานประดิษฐ์ว่าวบ้านสาคร”
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
1 โรงเรียนสาครพิทยาคาร จำนวน
5 เล่ม คือ 1.1)
สืบสานภูมิปัญญาพัฒนางานประดิษฐ์ว่าว 1.2) กอไผ่เป็นลำนำมาแปลงร่างสร้างวัสดุประดิษฐ์ว่าว
1.3) ว่าวนกมีค่าภูมิปัญญาชาวสาคร 1.4) ว่าวบุหลันงามตาผ้าปาเตะน่าชมสมคำเล่าลือชื่อว่าววงเดือน 1.5) เศษไผ่ไร้ค่าพัฒนาสร้างรายได้
2) แบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ เรื่อง งานประดิษฐ์ว่าวบ้านสาคร สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนสาครพิทยาคาร ซึ่งเป็นแบบทดสอบเลือกตอบชนิด 4
ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 3) แบบประเมินการประดิษฐ์ว่าวสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนสาครพิทยาคาร มี 3 ระดับ
ประเมินด้านต่างๆ ต่อไปนี้
3.1) การเลือกใช้วัสดุเหมาะสม 3.2)
ขนาดและรูปทรง 3.3) ความเรียบร้อยของผลงาน 3.4) ความประณีต สวยงาม 3.5)
ความสมบูรณ์ของผลงาน 4)
แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม
ชุด “งานประดิษฐ์ว่าวบ้านสาคร” จำนวน 15 ข้อ การวิเคราะห์มูลใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ค่าร้อยละ การทดสอบแบบที (t-test) สถิติที่ใช้ในการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ ได้แก่
การหาค่าความตรงของเครื่องมือ การคำนวณค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ค่าความยากง่าย ค่าอำนาจจำแนก
ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ โดยใช้สูตร KR-20 และหาประสิทธิภาพของหนังสืออ่านเพิ่มเติม โดยหาค่า E1 และ E2
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการหาประสิทธิภาพของหนังสืออ่านเพิ่มเติม
ชุด “งานประดิษฐ์ว่าวบ้านสาคร”
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
1 โรงเรียนสาครพิทยาคารได้ค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ
80.20/81.00
ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพที่กำหนดได้
คือ 80/80
2.
ผลการเปรียบเทียบผลการเรียนรู้
เรื่อง งานประดิษฐ์ว่าวบ้านสาคร
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
1 โรงเรียนสาครพิทยาคาร ระหว่างก่อนเรียน (Pre-test) และหลังเรียน
(Post-test)
โดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด “งานประดิษฐ์ว่าวบ้านสาคร” แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
0.01
โดยค่าเฉลี่ยของคะแนนหลังการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม สูงกว่าค่าเฉลี่ยของคะแนนก่อนใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม
3. ความสามารถในการประดิษฐ์ว่าวของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนสาครพิทยาคาร หลังเรียนโดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด “งานประดิษฐ์ว่าวบ้านสาคร” มีนักเรียนผ่านเกณฑ์ที่กำหนด คือ มีคะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 จำนวน 25
คน คิดเป็นร้อยละ 100.00 โดยมีค่าร้อยละของคะแนนอยู่ระหว่าง 73.33
ถึง 93.33
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนสาครพิทยาคาร หลังการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม ชุด “งานประดิษฐ์ว่าวบ้านสาคร” มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากโดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 2.65
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น